“Superman ซูเปอร์แมน” ฉบับปี 2025 นี้ ถือเป็นการเริ่มต้นใหม่ที่สดใสและเปี่ยมไปด้วยความหวังของจักรวาล DC ภายใต้การดูแลของ เจมส์ กันน์ (James Gunn) ภาพยนตร์เล่าถึงชีวิตของ คลาร์ก เคนท์ ในช่วง 3 ปีแรกของการเป็นซูเปอร์ฮีโร่ในมหานครเมโทรโพลิส เขาต้องพยายามประนีประนอมระหว่างความเป็นมนุษย์ที่เติบโตมาบนโลก กับมรดกชาวคริปโตเนียนที่ติดตัวมา การรับบทบาทเป็นผู้พิทักษ์ความจริง ความยุติธรรม และวิถีแห่งมนุษย์ ทำให้เขาต้องเผชิญหน้ากับโลกที่มองว่าคุณค่าเหล่านี้เป็นเรื่องล้าสมัย
เมื่อมีเหตุการณ์ระดับโลกที่เกี่ยวพันกับแผนการร้ายของมหาเศรษฐี เล็กซ์ ลูเธอร์ ทำให้ซูเปอร์แมนถูกตั้งข้อสงสัยและเสื่อมเสียชื่อเสียง เขาต้องพิสูจน์ตัวเองและได้รับความช่วยเหลือจากเพื่อนร่วมงานที่สำนักพิมพ์เดลี่ แพลเน็ต อย่าง โลอิส เลน และ จิมมี่ โอลเซน รวมถึงฮีโร่คนอื่น ๆ เพื่อเปิดโปงความจริงและหยุดยั้ง ลูเธอร์ ที่สร้างแม้กระทั่งซูเปอร์โคลนขึ้นมาต่อต้านเขา ภาพยนตร์เรื่องนี้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการเลือกที่จะเป็น “มนุษย์” ของคลาร์ก เคนท์ แม้จะมีพลังเหนือกว่ามนุษย์คนใดก็ตาม
รีวิวหนัง Superman ซูเปอร์แมน บุรุษเหล็ก แอ็คชั่น สนุก และหัวใจที่ยิ่งใหญ่
การดำเนินเรื่องของ “Superman ซูเปอร์แมน” (2025) ตั้งแต่ช่วงต้นนั้นเต็มไปด้วยพลังงานและความสนุกสนานอย่างน่าตื่นเต้น! ผู้กำกับเจมส์ กันน์ ได้นำเสนอ Superman ในแบบที่สดใหม่ เต็มไปด้วยอารมณ์ขันและหัวใจที่อิ่มเอมใจ ซึ่งเป็นสิ่งที่ขาดหายไปจากหนังซูเปอร์ฮีโร่หลายเรื่องในช่วงที่ผ่านมา เดวิด คอเรนสเว็ต ในบทบาทซูเปอร์แมนสามารถถ่ายทอดทั้งความสง่างามของฮีโร่และความเงอะงะน่ารักของ คลาร์ก เคนท์ ได้อย่างลงตัว ขณะที่การเปิดตัวละครรองอย่าง โลอิส เลน ของ ราเชล บรอสนาฮาน ก็มีเสน่ห์และเป็นเหมือนจุดยึดเหนี่ยวให้แก่คลาร์กได้เป็นอย่างดี
ในช่วงกลางเรื่องนั้น หนังจะค่อย ๆ เพิ่มความเข้มข้นของการต่อสู้ ทั้งทางกายภาพและทางอุดมการณ์ระหว่างซูเปอร์แมนกับเล็กซ์ ลูเธอร์ โดยมีฉากแอ็คชั่นที่ยิ่งใหญ่อลังการ และการหักมุมที่ทำให้คน ดูหนังออนไลน์ ต้องลุ้นตาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งฉากการต่อสู้บนตึกสูงที่ทำให้เราต้องตื่นเต้นไปกับพลังของชายเหล็กผู้นี้
สำหรับช่วงท้ายเรื่อง เป็นการผสานที่ลงตัวระหว่างฉากแอ็คชั่นสุดระทึกกับการตัดสินใจที่ส่งผลต่ออารมณ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้อความที่ซูเปอร์แมนส่งถึงชาวโลก ซึ่งเน้นย้ำถึงความหวังและความดีงามในตัวมนุษย์ หนังเรื่องนี้ไม่ได้มีแค่การต่อสู้ แต่ยังเป็นเรื่องราวของการค้นหาตัวตนและการเลือกทางเดินที่เต็มไปด้วยหัวใจ หนังเรื่องนี้ถือเป็นบทเรียนอันล้ำค่าและเป็นก้าวแรกที่ยอดเยี่ยมสำหรับจักรวาลใหม่นี้ สำหรับใครที่อยากสัมผัสความยิ่งใหญ่แต่ยังไม่ได้ ดูหนังชนโรง ก็สามารถรอชมในรูปแบบอื่น ๆ ได้
โดยสรุปแล้ว “Superman ซูเปอร์แมน” (2025) เป็นภาพยนตร์ที่อัดแน่นไปด้วยแอ็คชั่น ผสมผสานด้วยอารมณ์ขัน และนำเสนอแก่นแท้ของซูเปอร์แมนได้อย่างถูกต้องตามต้นฉบับ หากคุณกำลังมองหาความสนุกและแรงบันดาลใจ ภาพยนตร์เรื่องนี้คือสิ่งที่คอหนังฮีโร่ต้องไม่พลาด หรือหากใครกำลังมองหาที่ ดูหนังฟรี เพื่อติดตามเรื่องราวของ DCU ต่อไป ก็ไม่ควรพลาดเรื่องนี้เป็นอันขาด
จุดเด่นและจุดด้อย
จุดเด่น
- การตีความตัวละครที่ลงตัว: เดวิด คอเรนสเว็ต นำเสนอ Superman ที่มีความ หวัง (Hope) และ มองโลกในแง่ดี ได้อย่างสมบูรณ์แบบ เป็น Superman ที่แฟน ๆ โหยหามานาน
- เคมีที่เข้ากัน: ความสัมพันธ์ระหว่างคลาร์ก เคนท์ และ โลอิส เลน (Rachel Brosnahan) มีเสน่ห์และเป็นธรรมชาติอย่างมาก ทำให้ตัวละครมีมิติและน่าติดตาม
- โทนเรื่องที่สดใสและสนุก: เจมส์ กันน์ ประสบความสำเร็จในการนำพาโทนแบบ “Comic Book” ที่มีสีสันและความตลกเข้ามาสู่เรื่องราวได้อย่างกลมกลืน
- ฉากแอ็คชั่นที่สร้างสรรค์: แม้จะมีฉากแอ็คชั่นใหญ่ แต่ก็มีการออกแบบที่ฉลาดและน่าตื่นตาตื่นใจ ไม่ได้มีแค่การทำลายล้างเพียงอย่างเดียว
จุดด้อย
- การเล่าเรื่องที่เร่งรีบ: ด้วยความที่เป็นการแนะนำตัวละครหลักและตัวละครรองจำนวนมากในคราวเดียว ทำให้บางช่วงของเนื้อเรื่องรู้สึกเร่งรัดเกินไป
- วายร้ายยังไม่โดดเด่นเท่าที่ควร: แม้ เล็กซ์ ลูเธอร์ จะรับบทโดย Nicholas Hoult ได้อย่างน่าสนใจ แต่บทบาทอาจยังไม่แข็งแกร่งและน่าจดจำเท่าเวอร์ชันคลาสสิก ทำให้การปะทะกันทางอุดมการณ์ลดความเข้มข้นลงเล็กน้อย
- การปูพื้นฐานมากเกินไป: เนื่องจากเป็นจุดเริ่มต้นของจักรวาลใหม่ (DCU) การใส่ตัวละครและข้อมูลที่ปูทางไปสู่หนังเรื่องถัด ๆ ไป อาจทำให้ผู้ชมที่ไม่เคยติดตามมาก่อนรู้สึกสับสนได้
ข้อมูลเกี่ยวกับหนัง
- ประเภทหนัง: แอ็คชั่น, ผจญภัย, ไซไฟ
- นักแสดงนำ: เดวิด คอเรนสเว็ต (David Corenswet) เป็น ซูเปอร์แมน/คลาร์ก เคนท์, ราเชล บรอสนาฮาน (Rachel Brosnahan) เป็น โลอิส เลน, นิโคลัส เฮาลต์ (Nicholas Hoult) เป็น เล็กซ์ ลูเธอร์
- หนังของประเทศ: สหรัฐอเมริกา
- หนังปีที่ หรือกำหนดฉาย: กำหนดฉายในสหรัฐอเมริกา 11 กรกฎาคม 2025 (เป็นภาพยนตร์เรื่องแรกใน บทที่หนึ่ง: เทพเจ้าและปีศาจ ของจักรวาลดีซี)